วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์

ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์
ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์ ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์ ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เบญจรงค์ซึ่งมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ภายใต้่ ลวดลายอันงดงามอ่อนช้อยและเอกลักษณ์ของความเป็นไทย เครื่องเบญจรงค์ไทยที่มีลวดลายอันงดงามได้รับการถ่ายทอดผ่านช่างฝีมือซึ่งมี ความชำนาญและประสบการณ์อันยาวนานสู่ผู้ใช้ซึ่งนิยมความหรูหรา และละเมียดละไมในการใช้ชีวิต ผลิตภัณฑ์มากมายที่ผลิตออกมาจากไชยกวัฒน์เบญจรงค์ล้วนแล้วแต่เน้นคุณภาพและ ความคุ้มค่าในแง่ของการใช้งาน

      ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์ ดำเนินงานโดย คุณไชยกวัฒน์ วรวงษ์ ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเครื่องเบญจรงค์ไทยมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งปัจจุบัน ไชยกวัฒน์ ได้รับเครื่องหมายการค้า Thailand Brand ซึ่งผลิตสินค้าเบญจรงค์ส่งออกไปขายหลายประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับสินค้าไทย ไชยกวัฒน์ เบญจรงค์ มีสาขาอยู่หลายที่ ดังนี้



      เครื่องเบญจรงค์เป็นเครื่องถ้วยที่มีการลงสีที่พื้นและลวดลายเป็นเครื่อง ปั้นดินเผาประเภท เซรามิคส์ (Ceramics) ใช้เนื้อดินประเภทพอร์ซเลน (Porcelain ware) โดยเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เขียนลายด้วยวิธีลงยา หรือสีผสมเคลือบ (Enamel) เป็นงานที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 ในรัชสมัยพระเจ้าซวนเต๊อะ (พ.ศ.1969-1978) สมัยราชวงศ์หมิง มีการผลิตครั้งแรกในแคว้นกังไซ มณฑลเจียงซี (หรือที่คนไทยเรียกว่า กังไส) และพัฒนาต่อมาจนเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยพระเจ้าเฉิงฮั่ว (พ.ศ.2008-2030) 
     การ เขียนลายตามแบบของจีนจะใช้ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป มีชื่อเรียกในภาษาจีนต่าง ๆ กัน เช่น อู๋ไฉ่ โต้วไฉ่ เฝินไฉ่ และฝาหลั่งไฉ่ ส่วนที่เป็นของไทยนั้นจะนิยมลง 5 สีด้วยกัน คือ ขาว เหลือง ดำ แดง เขียว(คราม) จึงเรียกว่า เครื่องเบญจรงค์ หรือ 5 สี โดยทั้ง 5 สีนี้จัดได้ว่าเป็นแม่สีเครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทย และในบางครั้งอาจมีการใช้สีมากกว่า 5 สีด้วย เช่น ชมพู ม่วง แสด และน้ำตาล ในอดีตใช้การสั่งทำที่ประเทศจีนตามความคิดและลวดลายของไทย

     การสั่งทำนั้นจะมีช่างของไทยเดินไปควบคุมการผลิตเพื่อให้ได้รูปลักษณะที่ เป็นแบบไทย เริ่มตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคที่ 3 ช่วงประมาณรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ.2173-2198) และสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199-2231) ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์หมิงตอนปลาย โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าวั่นลี และต่อเนื่องจนถึงสมัยราชวงศ์ชิง

     การสั่งทำจากประเทศจีนในสมัยนั้นได้สั่งทำเป็นโถปริก และโถฝาขนาดกลาง เขียนเป็นลายกนก ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายเทพนม ลายนรสิงห์ และยังมีที่เป็นลวดลายของจีน เช่น ลายเทพนมจีน (เทวดาท้องพลุ้ย) มีพื้นสีต่างๆ เช่น เหลือง ชมพู ม่วงอ่อน เครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทยมีทั้งสั่งทำที่เมืองจิงเต๋อเจิ้น และจากเตาเผาที่มณฑลฝูเจี้ยนและกวางตุ้น เครื่องเบญจรงค์ที่สั่งทำจากเมืองจิงเต๋อเจิ้น มักเป็นของใช้ในราชสำนักเพราะเนื้อดินปั้นละเอียด แกร่ง และช่างมีฝีมือดี เขียนลายได้ละเอียดสวยงาม


     เครื่องถ้วยเบญจรงค์ยังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่องในประเทศไทย มาจนถึงสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเริ่มลดความนิยมลง แต่จะนิยมใช้ในเครื่องลายครามมากกว่า และยังมีการเขียนลายน้ำทองทับไปบนลายครามด้วย

     ต่อมาในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการสั่งให้ทำเครื่องถ้วยเขียนเป็นลายอักษรพระนาม จ.ป.ร. ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2431 หลังจากนั้นความนิยมในเครื่องถ้วยลายน้ำทองได้ลดลง

     ในระยะต่อมาได้มีการสั่งทำชุดชาจากยุโรปในลักษณะรูปทรงแบบจีน เรียกเครื่องถ้วยจักรี เพื่อใช้เป็นที่ระลึกในงานพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ

     ลักษณะงานด้านเครื่องถ้วยเบญจรงค์นี้ ไม่เพียงแต่มีความสนใจเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในประเทศญี่ปุ่นสมัยช่วงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ มีความสนใจในเครื่องถ้วยประเภทนี้เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นมีการผลิตส่งมาขายในประเทศไทยในภายหลัง แต่ไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก คงมีการผลิตมาจำหน่ายเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งนักสะสมจะเรียกว่าเครื่องถ้วยเบญจรงค์ญี่ปุ่น

     เครื่องเบญจรงค์จะนิยมเขียนบนภาชนะที่มีฝา จาน โถ จานเชิง กาน้ำ ชุดตั้งโต๊ะ ตั้งแต่ภาชนะที่มีขนาดเล็กและใหญ่ลดหลั่นกันไป โดยเฉพาะโถที่มีรูปทรงต่างๆ กัน เช่น ทรงตรง ทรงโกศ ทรงมะเฟือง โถปริก โถพลู ส่วนฝาจะมีหลายรูปทรงเช่นกัน อาทิเช่น ฝาโถทรงมัณฑ์ยอดลูกแก้วกลม รูปสัตว์ เป็นต้น และจากความสวยงามของเครื่องถ้วยเบญจรงค์ จึงมักมีผู้นำมาใช้รองบายศรีในพิธีบูชาเทวดา ซึ่งเรียกว่า บายศรีปากชาม ตามคติความเชื่อของคนไทยผสมผสานกับลวดลายที่ประดับบนตัวชาม คือ การใช้ลายเทพนม



     การทำเครื่องเบญจรงค์ จึงเป็นการตกแต่งผลิตภัณฑ์ที่เคลือบแล้ว (ของขาว) มาตกแต่งให้สวยงาม เผาในอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก มีสีสันสดใส ลวดลายที่ใช้เขียนบนภาชนะที่เป็นลายน้ำทองมีมากมาย ส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากลายไทย เช่น ลายข้าวพุ่มบิณฑ์ ลายก้านขด หรือเป็นลายของธรรมชาติ เช่น ลายกุหลาบ ลายดอกไม้ ลายกลีบบัว ส่วนที่เป็นลายจีน เช่น ลายดอกไม้สี่ฤดู ลายผีเสื้อ ค้างคาว แมลงปอ ดอกไม้ ดอกพุดตาน สิงโต ฯลฯ

    ส่วนสีที่ใช้ในการทำเครื่องเบญจรงค์ในปัจจุบัน มีการใช้สีตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป จนถึงประมาณ 30 สี และรูปแบบได้มีการพัฒนาตามความต้องการของตลาดให้มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของงานเครื่องเบญจรงค์ไทยอยู่เสมอ

สถานที่จำหน่าย


กลุ่มเครื่องเบญจรงค์
17/1 หมู่ 8 บ้านคลองตากแดด ถนนเศรษฐกิจ ตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร 74110
ติดต่อ : คุณไชยกวัฒน์ วรวงษ์
โทร : 034 848637, 081 907 1998
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น