ผลิตภัณฑ์ จักสานฝีมืออันประณีตของกลุ่มแม่บ้านพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด โดยการนำของ นางศิรินภา ไพรสุวรรณ ประธานกลุ่ม วัย 41 ปี นอกจากจะเป็นการสร้างเงินสร้างงานให้กับสมาชิกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4,000 บาท และสร้างรายได้เข้ากลุ่มหักค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าเดืนละ 3 หมื่นบาทแล้ว ปัจจุบันยังสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังมีการรวมกลุ่มเปิดตลาดส่งสินค้าหัตถกรรมขายไกลถึงต่างแดน
ก่อนจัดตั้งเป็นกลุ่มเครือข่ายหัตกรรมจักสานและศิลปะประดิษฐ์พื้นบ้านนั้น นางศิรินภา เล่าว่า เริ่มจากเหล่าแม่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ทอผ้ามัดหมี่ขาย แต่กลับประสบปัญหาเรื่องตลาด เนื่องจากขายได้ยาก เพราะผ้ามัดหมี่ทอมือนั้นราคาสูง ต้นทุนก็สูงด้วย กระทั่งปี 2536 พัฒนาชุมชนจึงเข้ามาดูแลเรื่องการรวมกลุ่ม และหนุนให้ชาวบ้านจักสานโดยเน้นวัสดุที่หาได้ง่ายในพื้นที่
ประธานกลุ่มเสริมอีกว่า ครั้งแรกกลุ่มมีสมาชิก 40 คน ไปตัดต้นกกที่มีตามปลายนามาสานเป็นตะกร้า ขณะที่บางคนก็จับมีดตัดไผ่หลังสวนมาผ่าเป็นซีกๆ แล้วบรรจงเหลา กระทั่งได้เส้นตอกสำหรับสานกระติบข้าวเหนียว และประยุกต์เป็นรูปแบบอื่นๆ จนกลายเป็นของฝากและสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกกลุ่มอย่างพออยู่พอกิน
จากการประยุกต์ชิ้นงานอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้กลุ่มจักสานของหมู่บ้านพนมไพร ถูกผลักดันให้เข้ารวมตัวกับเครือข่ายหัตถกรรมจักสานและศิลปะประดิษฐ์ จ.ร้อยเอ็ด ที่รวมตัวเอาสมาชิกกลุ่มจักสานจากหมู่บ้านต่างๆ อีก 2 อำเภอ คือ อ.อาจสามารถ และกิ่ง อ.หนองฮี ยิ่งทำให้เกิดความหลากหลายและความเข้มข้นในการพัฒนาชิ้นงานอย่างต่อเนื่อง
"ทุกวันนี้กลุ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องจำนวนสมาชิกและเรื่องชิ้นงานที่วางขาย ซึ่งในกลุ่มมีสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จักสานมากมาย ทั้งกระเป๋าไม้ไผ่ กระติบข้าวจากกกไหล ที่ได้รับคัดเลือกเป็นสินค้าโอท็อประดับ 2 ดาว และที่ขึ้นชื่อสร้างรายได้มากที่สุด คือ แจกันไม้มะม่วง ที่ได้รับคัดเลือกจากจังหวัดเป็นสินค้าระดับ 4 ดาว" ประธานกลุ่ม เผย และว่า

ในส่วนกระเป๋าไม้ไผ่ และแจกันไม้มะม่วงนั้น จะมีออเดอร์สั่งจากประเทศเยอรมนีทุกเดือน โดยแต่ละเดือนจะมีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วกว่า 3 หมื่นบาท ขณะที่แม่บ้านก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4,000 บาท อย่างไรก็ตาม ประธานกลุ่มเสริมว่า ที่เป็นปัญหามากคือ แจกันไม้มะม่วง ซึ่งลูกค้าต่างชาติต้องการมาก ออเดอร์สั่งแต่ละครั้ง 1-2 แสนบาท แต่กลุ่มไม่สามารถทำส่งให้ทันได้ เพราะไม่สามารถหาไม้ได้
ประธานกลุ่มเครือข่ายหัตถกรรมจักสานและศิลปะประดิษฐ์พนมไพร บอกอีกว่า เนื่องจากทุกวันนี้สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้วัสดุเริ่มจะหมดไป บางครั้งต้องออกไปซื้อจากที่อื่น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว กลุ่มจึงสนับสนุนให้ชาวบ้านหันมาปลูกพืชวัตถุดิบอย่าง กก ไม้ไผ่ ไปพร้อมกัน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
สำหรับใครก็ตามที่สนใจใคร่เรียนรู้ นางศิรินภา ย้ำว่า แวะชมได้ที่กลุ่มเครือข่ายหัตถกรรมจักสานและศิลปะประดิษฐ์พื้นบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด สมาชิกกลุ่มทุกคนพร้อมต้อนรับเสมอ เพราะงานหัตถกรรมอันหลากหลายนี้ นอกจากจะพิสูจน์ให้เห็นถึงภูมิปัญญาปู่ ย่า ตา ยายแล้ว ประธานกลุ่มบอกว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจที่สินค้าเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ ซึ่งไม่เฉพาะเยอรมนีเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามา
สนใจติดต่อ
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนประดิษฐกรรมไม้
บ้านชะโด
ติดต่อ : คุณวิเศษ ศรีชุติโยทัย
โทร : 043 591167, 08 9840 7157
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น